บาคาร่า

บาคาร่าเป็นการเดิมพันประเภทหนึ่ง ที่ใช้ไพ่ เป็นอุปกรณ์หลักสำหรับการเล่นพนัน ซึ่งในยุคเก่า การเดิมพันประเภทนี้ ได้มีการเปิดให้บริการตามร้านทั่ว ๆ ไป แล้วต่อจากนั้นก็ได้มีการเพิ่ม วิธีทางการให้บริการมาเป็น บ่อนคาสิโนทั่ว ๆ ไป และก็ในปัจจุบันนี้ ได้มีการปรับปรุงระบบการพนันให้เป็นไปในลักษณะของเกมพนันออนไลน์ ซึ่ง สามารถเปิดให้บริการในวิถีทางออนไลน์ได้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้เหล่านักพนันทั้งหลาย บาง ครั้งอาจจะสงสัยว่า บาคาร่าเป็นอย่างไร เพราะอะไรช่วงนี้มีการเล่นเห็นทั่ว ๆ ไปในโลกอินเตอร์เน็ต ด้วยเหตุนั้น พวกเรามาทำความรู้จักความหมายของ บาคาร่า เป็นยังไง ในด้านของนักลงทุนกันเลยดีกว่า

ประวัติบาคาร่า

คำว่า “บาคาร่า” (Baccarat) เป็นเกมไพ่ประเภทหนึ่ง คล้ายกับไพ่ป๊อกเด้ง ซึ่งคำว่า “Baccarat” เป็นคำภาษาอิตาลี โดยมีรากศัพท์เป็น “Baccara" ซึ่งเป็นคำภาษาอิตาลี โดยคำดังที่ได้กล่าวมาแล้ว หมายความว่า “ศูนย์” ซึ่งถือเป็นแต้มบนหน้าไพ่ที่มีมากที่สุดที่ใช้ในการเล่นบาคาร่า ฉะนั้นประวัติความเป็นมาของบาคาร่า หรือแหล่งกำเนิดของบาคาร่า ก็สามารถเดาได้ว่า เกิดที่ประเทศอิตาลี ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้น โดย เฟล็กซ์ ฟาลูกยเรน (Felix Falguirein) นักเสี่ยงโชค ชาวอิตาลีในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 รวมทั้งเกมบาคาร่านี้ ถูกเอามา ยังประเทศฝรั่งเศสในยุคพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 8 (Charles VIII) กษัตริย์ของประเทศฝรั่งเศส ในระหว่างสงครามประเทศ ฝรั่งเศส-อิตาลี ตอนคริสต์ศักราช 1494 นั่นเอง ยิ่งกว่านั้น ยังมีผู้เชียวชาญบางคนได้มีความเห็นเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของบาคาร่า ว่า เนื่องมาจากองค์ประกอบของบาคาร่ามีความเหมือนกับไพ่แบล็คแจ็ค (Blackjack) ของประเทศฝรั่งเศส มากมาย ก็เลยคาดคะเนได้ว่า เรื่องราวบาคาร่าคงจะมีต้นกําเนิดมาจากการพัฒนาการเล่นไพ่แบล็คแจ็ค ประเทศฝรั่งเศส ในตอนต้นศตวรรษที่ 19 ด้วยเหมือนกัน ซึ่งตรงกับยุคของ พระเจ้าหลุยส์-ฟีลิปที่ 1 แห่งฝรั่งเศส (Louis Philippe) (ตอนปี คริสต์ศักราช 1793 – 1850)

บาคาร่าและวิธีเล่น

บาคาร่า หนึ่งในเกมคาสิโนออนไลน์ ยอดนิยมอันดับต้น ๆ ด้วยการเล่นที่เรียบง่าย และคาดเดาได้ยาก เพราะใช้ไพ่ 6 - 8 สำรับ จึงเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของ บาคาร่า ที่ใคร ๆ ก็อยากเล่นให้ชนะสักครั้งหนึ่ง สามารถเล่นได้ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง และยังมีทีมงานคอยดูแล ให้บริการ คุณเป็นอย่างดี หากเกิดปัญหา หรือติดขัดใด ๆ ทีมงานของเรา ก็พร้อมที่จะให้บริการเสมอ
บาคาร่า คือ การเดิมพัน ในรูปแบบหนึ่ง การเล่นคล้าย ๆ เกมไพ่ป๊อกเด้ง มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี ช่วงปี ค.ศ.1400 หรือเรียกว่า Baccarat เป็นคำภาษาฝรั่งเศส โดยมีรากศัพท์ คือ “Baccara” ซึ่งเป็นคำในภาษาอิตาลี ที่แปลว่า 0 ในสมัยก่อน การเดิมพันชนิดนี้ เปิดให้บริการ ตามร้านค้าทั่ว ๆ ไป แต่หลังจากนั้น ก็ได้มีการเพิ่มช่องทางเปิดเป็น บ่อนคาสิโน ในปัจจุบันนี้ มีการพัฒนาระบบ การเดิมพันให้เป็นในรูปแบบการเดิมพันออนไลน์ สามารถเปิดใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ได้ เพื่อความสะดวกสบาย ให้กับเหล่านักเดิมพัน ก่อนที่ บาคาร่า จะกลายมาเป็นที่รู้จัก และโด่งดังไปทั่วโลก โดย Lan Fleming ได้เรียนรู้การเล่นบาคาร่า และได้สร้างตัวละคร ที่เป็นเซียนอย่าง James Bond จนทำให้หลายคน ที่ได้ดูภาพยนตร์แล้ว อยากเล่นตาม
จากในอดีต จวบจนมาถึง การเล่นในปัจจุบัน ทำให้เราได้ทราบว่า เกมไพ่ชนิดนี้ มีความคล้ายคลึง กับการเล่นป๊อกเด้ง ซึ่งจะพบมากในคาสิโนแถบเอเชีย โดยเกมไพ่ บาคาร่า ได้พัฒนามาเป็น เกมที่เล่นผ่านการถ่ายทอดสดทางอินเตอร์เน็ต เดิมทีรองรับการเล่นผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือโน้ตบุ๊คเท่านั้น แต่ ณ ปัจจุบัน ผู้ให้บริการ คาสิโนออนไลน์ ค่ายใหญ่ต่าง ๆ พัฒนาโปรแกรม และแอพพลิเคชั่น ให้สามารถรองรับการเล่นบนโทรศัพท์มือถือได้แล้ว และกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เป็นเกมที่เข้าใจง่าย กติกาไม่ซับซ้อน ใช้เวลารวดเร็วในการเดิมพัน มีอัตราการชนะมากกว่าเกมอื่น ๆ

จุดเด่นที่ทำให้บาคาร่าเป็นที่ชื่นชอบ

บางคนบอกว่าเล่นแล้วเพลิดเพลิน บันเทิงใจ รวมทั้งได้เงินง่าย บางคนก็เล่นเพราะสนุกขำขัน คลายเครียด แต่จริง ๆ แล้ว เหตุผลหลักที่ทำให้เป็นเกมยอดนิยม ผู้คนชอบเล่น คือ
  • ตื่นเต้น ท้าทาย สนุกสนาน ใช้เวลาเล่นน้อย ตอบโจทย์สำหรับคนมีเวลาน้อย แต่อยากหากำไร
  • เล่นง่าย และสร้างกำไรได้รวดเร็ว เพราะเป็นเกมที่มีรูปแบบ ไม่ซับซ้อนมาก และสามารถทำเงินให้กับผู้เล่นได้มาก
  • ประเภทของเกมที่หลากหลายให้คุณได้เลือกเล่น มีการวางเดิมพันหลายรูปแบบ

วิธีการเล่นบาคาร่า

การเล่นจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งให้ผู้เล่นเลือกทายได้ คือ
- ฝั่งผู้เล่น (PLAYER) หรือฝั่งน้ำเงิน
- ฝั่งเจ้ามือ (BANKER) หรือฝั่งแดง
วิธีการเล่น เหมือนไพ่ป๊อกเด้ง ผู้ที่จะชนะคือ ผู้ที่แต้มหน้าไพ่รวมกัน 8 หรือ 9 แต้ม แต่บาคาร่า จะมีกติกาและวิธีเล่นที่แตกต่างออกไป เพราะคุณไม่ได้เป็นผู้ลุ้นไพ่เอง แต่คุณคือผู้ชม ที่สามารถวางเดิมพันได้ว่า ฝ่ายใดในเกมจะเป็นผู้ชนะ ซึ่งแต่ละช่องที่วางเดิมพัน เงินรางวัลก็จะแตกต่างกันออกไป เริ่มต้นเล่นเกม จะมีดีลเลอร์ (คนแจกไพ่) แจกไพ่ให้กับผู้เล่น ทั้งฝั่งเจ้ามือ (BANKER) และฝั่งผู้เล่น (PLAYER) ฝั่งละ 2 ใบ และคุณจะต้องเลือกวางเดิมพันว่าฝั่งใด จะมีแต้มหน้าไพ่ที่สูงกว่า เมื่อทั้งสองฝั่งเปิดไพ่ 2 ใบ แล้ว ยังไม่สามารถตัดสินการ แพ้ - ชนะ ได้ จะมีการจั่วไพ่ใบที่ 3 โดย แต้มรวม ตั้งแต่ 0 - 5 ต้องจั่วไพ่เพิ่ม แต่ถ้าหากได้แต้มรวม 6 ขึ้นไป จะไม่สามารถจั่วเพิ่มได้

รูปแบบในการเลือกวางเดิมพัน

- เลือกเดิมพันฝั่งผู้เล่น (Player) จะได้รับอัตรารางวัลแบบ 1 : 1 เช่น วางเงินเดิมพัน 500 จะได้เงินรางวัลอีก 500 บาท
- เลือกเดิมพันฝั่งเจ้ามือ (Banker) จะได้รับอัตรารางวัลแบบ 1 : 0.95
- เลือกเดิมพันแบบเสมอกัน (Tie) จะได้รับอัตรารางวัลแบบ 1 : 8 แต่ถ้าคุณวางเดิมพันฝั่งผู้เล่นหรือฝั่งเจ้ามือ คุณจะได้รับเงินเดิมพันคืน
- ผู้เล่นไพ่คู่ (Player Pair) จะได้รับอัตรารางวัลแบบ 1 : 11 เลือกเดิมพันว่าฝั่งผู้เล่นจะได้ไพ่ 2 ใบ เป็นไพ่แต้มเท่ากัน เช่น 3 - 3 , Q - Q
- เจ้ามือไพ่คู่ (Banker Pair) จะได้รับอัตรารางวัลแบบ 1 : 11 เลือกเดิมพันว่าฝั่งเจ้ามือจะได้ไพ่ 2 ใบ เป็นไพ่ที่แต้มเท่ากัน
- ดับเบิ้ลเดี่ยว (Any Pair) จะได้รับอัตรารางวัลแบบ 1 : 5 เลือกเดิมพันว่า จะมีไพ่ 2 ใบ เป็นไพ่ที่แต้มเท่ากัน จะออกที่ฝั่งใดก็ได้
- ดับเบิ้ลคู่ (Perfect Pair) จะได้รับอัตรารางวัลแบบ 1 : 25 เลือกเดิมพันว่า ทั้งฝั่งเจ้ามือและฝั่งผู้เล่น จะได้ไพ่ 2 ใบ ที่แต้มเท่ากัน
- เดิมพันใหญ่ (Big) จะได้รับอัตรารางวัลแบบ 1 : 0.5 เดิมพันว่า ในตานั้น จะมีการจั่วไพ่ใบที่ 3 จากฝั่งใดฝั่งหนึ่ง
- เดิมพันเล็ก (Small) จะได้รับอัตรารางวัลแบบ 1 : 1.5 เป็นการเดิมพันว่าในตานั้น จะจบเกมโดยไม่มีการจั่วไพ่เพิ่ม

การดูแต้มหน้าไพ่

การนับแต้มจากหน้าไพ่ เหมือนกับการเล่นป๊อกเด้ง คือ
- 10 มีแต้มเท่ากับ 0
- J , Q , K มีแต้มเท่ากับ 0
- A มีแต้มเท่ากับ 1
- 2 , 3 , 4 , 5 , 6 , 7 , 8 , 9 จะมีแต้มเท่ากับตัวเลขที่อยู่หน้าไพ่

วิธีการนับแต้ม

การนับแต้มคะแนนรวม ให้นับผลแต้มหลักหน่วย เมื่อหน้าไพ่ทั้ง 2 ใบ เป็นแบบแต้มที่นับในการเล่นได้ เช่น 6 กับ 7 ผลรวมของแต้มที่ได้ คือ 13 ให้นับเฉพาะหลักหน่วย ก็จะได้เท่ากับ 3 แต้ม หรือ J กับ 6 ผลรวมของแต้มที่ได้ ก็จะเท่ากับ 6
- Natural หรือมักเรียกกันว่า ไพ่ป๊อก เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเปิดไพ่ 2 ใบแรก แล้วได้แต้มรวม 8 หรือ 9
- La Petite (เลเพไทท์) “ ป๊อก 8 ”
- Le Grande (เลแกรนด์) “ ป๊อก 9 ”
- Monkey (มังกี้) ไพ่ที่มีแต้มเป็น 0 ได้แก่ J , Q , K และ 10

เทคนิคและสูตร การชนะเกม บาคาร่า

  • เทคนิคการดูเค้าไพ่หลังเสมอ เป็นการแทงไพ่ที่ให้เราสังเกตเค้าไพ่ ที่มีสถิติการออกก่อนหน้านี้ ต้องเป็นการออกเสมอติดกันยาว ๆ 4 - 5 ตา เช่น ไพ่ออกลักษณะเป็น 10 J / 10 K / J k / Q J หากออกลักษณะนี้ ให้เราลงแทงที่คู่เสมอได้เลย มีผลกว่า 70-85% ในการชนะ
  • การดูเค้าไพ่ รูปแบบคู่ รูปแบบคี่ เช่น P P P P คือไพ่เค้าคู่ แต่ถ้า B B B คือ ไพ่เค้าคี่ เป็นเค้าไพ่ที่มีการชนะ ที่มี 2 ลักษณะ หากเราเจอเค้าไพ่แบบไหน ให้เราแทงตามเค้าไพ่นั้นได้เลย
  • เทคนิคการดูเค้าไพ่แบบ 3 แถว เป็นการดูเค้าไพ่ยอดนิยมมาก โดยการสังเกตเค้าไพ่นี้ก่อนการแทง ให้เราสังเกตเค้าไพ่ 3 แถว ก่อนหน้านี้ ว่าตัวหน้าสุด คืออะไร หลังจากนั้นให้เราแทงตามตัวนั้น
  • การตามเค้าไพ่คู่ โดยลงวางที่เค้าไพ่ที่มีการชนะเลขคู่ เช่น ฝั่งไหนมีการชนะ 2 4 6 8 ให้เราลงแทงที่ Player ได้เลย มีโอกาสการชนะได้ถึง 98%
  • การตามแบบเค้าไพ่ปิงปอง มีลักษณะเค้าไพ่ที่เป็นการชนะ แบบออกสลับกันไปมา เค้าไพ่นี้ถือเป็นเค้าไพ่ที่อ่านง่ายที่สุด และมีโอกาชนะได้ง่ายมากที่สุด
  • การตามแบบเค้าไพ่มังกร เป็นเค้าไพ่ที่มีการอ่านเค้าไพ่ที่ง่าย เป็นเค้าไพ่ยอดนิยมอย่างสูงมาก
  • เทคนิคการพนันออนไลน์ ดูเค้าไพ่ 2 ตัด 1 เช่น ถ้าฝั่งใดฝั่งหนึ่ง มีการชนะ 2 ครั้ง ตาที่สามให้เราเลือกลงตามฝั่งที่มีการชนะได้เลย

สูตรบาคาร่า

  • แทงสูตร “มังกร” นั่นก็คือ ผลออกสีเดิม ๆ ซ้ำ ๆ มากกว่า 4 ครั้งขึ้นไป นักพนันส่วนใหญ่จึงเรียกว่า "มังกร"
  • แทงสูตร “ปิงปอง” นั่นก็คือ ผลออกมาสลับกันไป - มาเรื่อย ๆ เช่น ผลออก Banker สลับกับ Player ไป - มา เสมือนการเล่นกีฬาปิงปอง
  • แทงสูตร “ไพ่คู่” คือ การแทงเงินลงไปในช่องไพ่คู่ นักเดิมส่วนมากมักใส่ไปแค่ 10% เท่านั้น หากผล 2 ใบแรก ไพ่ออกมาเหมือนกันจะได้รับเงินคูณ 11 เท่า เช่น แทงไพ่คู่น้ำเงิน 10 บาท แล้วไพ่เปิดออกมาเป็น 4 กับ 4 ท่านจะได้เงินคูณ 11 ทันที
  • แทงสูตร “Tie” ผลเสมอ ออกบ่อยมาก วิธีการก็คือ ทุกครั้งที่ท่านแทง ให้ติดเสมอไว้ด้วย ย้ำเลยว่า แค่ 10 บาทก็เกินพอ ถ้าผลออกมาเสมอ ท่านรับเต็มๆ ไปเลย 80 บาท
แอดไลน์